คุณกำลังปวดหลังเพราะที่นอนอยู่หรือเปล่า?
มาเช็กอาการและลักษณะการนอนกันว่า ที่นอนที่ใช้อยู่กำลังส่งผลเสียต่อหลังของคุณหรือไม่ มาดูกันว่ามีสัญญาณอะไรบ้างที่ควรสังเกต
- ตื่นมาแล้วรู้สึกปวดเมื่อยหลัง ปวดคอ หรือรู้สึกตึงบริเวณต่าง ๆ ของร่างกาย
- ลุกจากเตียงและเคลื่อนไหวร่างกายแล้วรู้สึกดีขึ้น
- นอนพลิกตัวบ่อย ๆ หาท่าที่สบายไม่ได้
- รู้สึกเหมือนจมลงไปในที่นอน หรือรู้สึกเหมือนนอนบนกระดาน
- นอนที่อื่นแล้วรู้สึกสบายกว่า เช่น โรงแรม หรือบ้านเพื่อน
- เห็นร่องรอยการยุบตัว หรือก้อนบนที่นอนอย่างชัดเจน
- รู้สึกเหมือนกำลังจะกลิ้งตกเตียง หรือไหลไปรวมกันตรงกลางเตียง
หากคุณมีอาการเหล่านี้หลายข้อร่วมกัน นั่นเป็นสัญญาณเตือนว่าอาจถึงเวลาพิจารณาเปลี่ยนที่นอนใหม่แล้ว
ที่นอนแบบไหนที่เป็นตัวการของอาการปวดหลังบ้าง?
- ที่นอนแข็งเกินไป ไม่รองรับส่วนโค้งเว้าของกระดูกสันหลัง จนเกิดแรงกดทับบริเวณสะโพกและไหล่ ทำให้เกิดอาการปวดหลัง
- ที่นอนที่นุ่มเกินไป ทำให้กระดูกสันหลังแอ่น ไม่มั่นคง และกล้ามเนื้อต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อประคองร่างกาย
- ที่นอนยุบ หรือเสื่อมสภาพ ที่นอนที่ผ่านการใช้งานมานาน วัสดุภายในจะเริ่มเสื่อมสภาพ ยืดหยุ่นน้อยลง และยุบตัวเป็นแอ่งในบริเวณที่นอนบ่อย ๆ ทำให้การรองรับไม่สม่ำเสมอ
- ที่นอนไม่เหมาะกับสรีระ แต่ละคนมีรูปร่าง น้ำหนักตัว และท่านอนที่แตกต่างกัน การเลือกที่นอนที่ไม่เข้ากับสรีระของตัวเองจะทำให้กระดูกสันหลังไม่อยู่ในแนวที่ถูกต้อง
- ที่นอนที่ไม่ได้มาตรฐาน ที่นอนราคาถูกที่ผลิตจากวัสดุคุณภาพต่ำและไม่ได้มาตรฐาน เสื่อมสภาพเร็ว อาจไม่เหมาะสำหรับการนอนในระยะยาว

บอกลาอาการปวดหลังด้วยที่นอนที่ใช่!
การเลือกที่นอนที่เหมาะสมกับตัวเอง ถือเป็นการลงทุนเพื่อสุขภาพได้ในระยะยาวเลยก็ว่าได้ ไปเช็กกันว่าถ้าอยากได้ที่นอนแก้ปวดหลัง ต้องดูอะไรบ้าง?
1. ประเภทของที่นอน
- ที่นอนสปริง: ยืดหยุ่นและระบายอากาศได้ดี มีทั้งแบบบอนเนลสปริงที่รองรับและพ็อกเก็ตสปริงที่ช่วยลดแรงสั่นสะเทือนและรองรับสรีระได้ดีกว่า
- ที่นอนยางพารา: ยืดหยุ่นสูง รองรับสรีระได้ดี ลดแรงกดทับ และระบายอากาศได้ดี ทนทาน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
- ที่นอนเมมโมรี่โฟม: ปรับรูปร่างตามสรีระ ช่วยลดแรงกดทับเฉพาะจุด เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาปวดหลังเรื้อรัง หรือคนที่ชอบความรู้สึกนุ่มสบาย โอบรับร่างกาย
- ที่นอนไฮบริด: เป็นการผสมผสานระหว่างวัสดุต่าง ๆ เพื่อให้ได้ข้อดีของวัสดุแต่ละชนิดมารวมกัน เช่น สปริงและเมมโมรี่โฟม หรือยางพารา
ที่นอนไฮบริด จาก ที่นอนพระราม 9 เลือกได้ทั้งขนาด 3.5 ฟุต, 5 ฟุต, 6 ฟุต
- ที่นอนสุขภาพเกรดโรงแรมรุ่น Monde วัสดุพ็อกเก็ตสปริง, ยางพาราแท้ Mono Zone, เมมโมรี่โฟม, หุ้มผ้าขนมิ้งลายกุหลาบ
- ที่นอนสุขภาพรุ่น Milano วัสดุยางพาราแท้ Mono Zone, ยางพาราแท้อัดแน่น, หุ้มผ้าแบบคูลเจล
2. เลือกระดับความแน่นให้เหมาะสม
ระดับความแน่นของที่นอนเองก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ต้องพิจารณา ดังนี้
- ที่นอนนุ่ม: เหมาะสำหรับคนที่ชอบนอนตะแคง หรือมีน้ำหนักตัวน้อย เพราะจะช่วยรองรับและโอบรับสรีระ ลดแรงกดทับบริเวณไหล่และสะโพก
- ที่นอนปานกลาง: เป็นตัวเลือกที่สมดุล เหมาะสำหรับคนส่วนใหญ่ โดยเฉพาะคนที่นอนหงาย หรือนอนสลับท่า
- ที่นอนแน่น: เหมาะสำหรับคนที่มีน้ำหนักตัวมาก หรือคนที่ชอบนอนคว่ำ และอาจจะเหมาะกับบางคนที่ชอบนอนหงาย และคนที่ต้องการการรองรับที่มั่นคงเป็นพิเศษ

3. รู้จักสรีระและท่านอนของตัวเอง
- น้ำหนัก: ผู้ที่มีน้ำหนักตัวมาก อาจเหมาะกับที่นอนที่มีความแน่นกว่า เพื่อให้รองรับน้ำหนักได้ดีและป้องกันไม่ให้กระดูกสันหลังแอ่นจนเกินไป ในขณะที่ผู้ที่มีน้ำหนักตัวน้อย อาจจะเหมาะกับที่นอนที่มีความนุ่มกว่า
- รูปร่าง: ส่วนโค้งเว้าของร่างกายแต่ละคนไม่เหมือนกัน ลองสังเกตตัวเองว่ามีส่วนเว้าส่วนโค้งมากน้อยแค่ไหน เพื่อเลือกที่นอนที่สามารถรองรับส่วนต่างๆ ของร่างกายได้อย่างเหมาะสม
- ท่านอน: ผู้ที่นอนหงายจะเหมาะกับที่นอนที่มีความแน่นระดับปานกลาง เพื่อรองรับส่วนโค้งของกระดูกสันหลังส่วนล่าง ส่วนผู้ที่นอนตะแคง ควรเลือกที่นอนที่มีความนุ่มปานกลางถึงนุ่ม เพื่อให้รองรับหัวไหล่และสะโพกได้ดี ลดแรงกดทับ และสำหรับผู้ที่นอนคว่ำ ท่านอนนี้ไม่ค่อยแนะนำหากมีอาการปวดหลังเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่ถ้าเลี่ยงไม่ได้ ควรเลือกที่นอนที่มีความแน่นสูง เพื่อป้องกันไม่ให้หลังแอ่นมากเกินไป
นอกจากนี้ ควรไปลองนอนที่นอนจริง ๆ เพื่อดูว่าระดับความแน่นแบบไหนที่ให้ความรู้สึกสบาย และลองนอนในท่าที่ใช้นอนประจำ หรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกที่นอนแก้อาการปวดหลังที่เหมาะกับคุณได้มากที่สุด

ท่านอนที่แนะนำสำหรับคนที่มีอาการปวดหลัง
มาถึงอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่จะทำให้คุณนอนหลับสบายคลายปวดหลังได้ นั่นก็คือการมีท่านอนที่ถูกต้อง แม้จะมีที่นอนที่เหมาะสม ลดปัญหาเรื่องปวดหลังแล้ว แต่ยังคงนอนด้วยท่านอนที่ไม่ถูกต้อง ก็อาจจะยังทำให้เกิดอาการปวดหลังได้อยู่ดี

นอนหงาย
ท่านอนหงาย โดยทั่วไปแล้วถือว่าเป็นท่านอนที่ดีที่สุดสำหรับผู้ที่มีอาการปวดหลัง เพราะจะช่วยให้กระดูกสันหลังอยู่ในแนวที่เป็นธรรมชาติ และน้ำหนักตัวกระจายทั่วร่างกาย นอกจากนี้ อาจลองหาหมอนใบเล็ก ๆ มารองใต้เข่า เพื่อช่วยลดแรงกดทับที่หลังส่วนล่าง และหมอนบาง ๆ รองใต้คอ เพื่อให้ศีรษะอยู่ในแนวเดียวกับกระดูกสันหลัง

นอนตะแคง
ถ้าคุณชอบนอนตะแคงก็ยังสามารถทำได้ แต่ต้องงอเข่าเล็กน้อยและกอดหมอนข้างไว้ระหว่างเข่าทั้งสองข้าง เพื่อช่วยให้สะโพกและกระดูกสันหลังอยู่ในแนวตรง นอกจากนี้ ควรเลือกหมอนที่มีความสูงพอเหมาะ เพื่อรองรับศีรษะไม่ให้เอียงมากเกินไป
ส่วนท่านอนที่ถ้าเป็นไปได้ก็ควรหลีกเลี่ยง คือ นอนคว่ำ โดยเฉพาะสำหรับคนที่มีอาการปวดหลัง เพราะจะทำให้คอบิดไปด้านใดด้านหนึ่งเป็นเวลานาน และทำให้หลังส่วนล่างแอ่นมากเกินไป เพิ่มแรงกดทับบนกระดูกสันหลัง หากคุณติดท่านอนคว่ำและยังไม่สามารถเปลี่ยนท่านอนได้จริง ๆ ลองหาหมอนบาง ๆ มารองใต้ท้อง เพื่อช่วยลดการแอ่นของหลังส่วนล่าง และพยายามบิดศีรษะให้น้อยที่สุด
การปรับเปลี่ยนท่านอนเพื่อบรรเทาอาการปวดหลัง ต้องใช้เวลาและความเคยชิน หากสามารถปรับเปลี่ยนท่านอนได้สำเร็จแล้ว รับรองว่าท่านอนที่ถูกต้องนี้ จะทำให้คุณนอนหลับสบาย หายปวดหลังได้อย่างแน่นอน

ตามหาที่นอนหลับสบายคลายปวดหลังได้ที่ ที่นอนพระราม 9
หากคุณกำลังตามหาที่นอนแก้ปวดหลัง ที่นอนพระราม 9 คือคำตอบ เพราะที่นี่เราไม่เพียงแต่มีที่นอนคุณภาพดีให้เลือกมากมาย แต่ยังมีบริการออกแบบที่นอนตามความต้องการ เพื่อให้มั่นใจว่าคุณจะได้ที่นอนที่เหมาะสมกับสรีระ และช่วยบรรเทาอาการปวดหลังของคุณให้ได้มากที่สุด โดยคุณสามารถเลือกที่นอน เตียง และหมอนที่ตรงกับความต้องการ หรือสั่งผลิตแบบพิเศษเพื่อให้เหมาะกับสไตล์การนอนคุณได้อย่างง่ายดาย พร้อมรับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ การันตีคุณภาพด้วยประสบการณ์กว่า 30 ปี
ลูกค้าท่านใดที่ต้องการสอบถามเกี่ยวกับที่นอนแก้ปวดหลัง หรือสนใจออกแบบที่นอนเฉพาะของคุณเอง ติดต่อเราวันนี้ พร้อมบริการจัดส่งและติดตั้งสินค้าครอบคลุมทั่วประเทศ